![translation](https://cdn.durumis.com/common/trans.png)
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- เกาหลีใต้หลังได้รับเอกราชได้ผ่านการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางความขัดแย้งทางอุดมการณ์ในสังคม แต่ความขัดแย้งในสังคมทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากตรรกะของฝ่ายซ้ายและขวา
- โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการปลดปล่อย 15 สิงหาคม 6.25 สงคราม 4.19 การปฏิวัติ 5.18 การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยทำให้ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดความไม่สงบในสังคม
- ทัศนคติในการยอมรับและแก้ไข ‘ข้อผิดพลาดของความเห็น’ ดังที่นักวิจารณ์คิมคับซูได้กล่าวไว้นั้น ควรเป็นแบบอย่างให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก้าวหน้า ฝักใฝ่ญี่ปุ่น และฝักใฝ่สหรัฐฯ ทุกพรรคการเมือง
ประเทศเกาหลีใต้หลังได้รับเอกราชได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและความแตกแยกทางอุดมการณ์ของสังคม ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ เกาหลีใต้ได้ก้าวขึ้นสู่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก จนถึงตอนนี้ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกคนใดสามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้
พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า แม้มนุษย์จะวางแผน แต่พระเจ้าทรงนำทาง สถานการณ์ในปัจจุบันของเกาหลีใต้ตรงกับคำกล่าวนี้
การทบทวนเส้นทางที่เกาหลีใต้ได้ผ่านมาจะช่วยให้เราสามารถมองย้อนไปสู่อดีตและปัจจุบันในมุมมองใหม่ การรวบรวมมุมมองที่แตกต่างกันจะช่วยให้ประชาชนมีเงื่อนไขในการรวมตัวมากขึ้น
มันเหมือนกับลำธารเล็กๆ จากหลายๆ ภูมิภาค มารวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ และแม่น้ำใหญ่ไหลลงสู่ทะเล เมื่อมองในมุมนี้ ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลีใต้เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางสังคมที่รุนแรงขึ้นหลังจากการปลดปล่อยในปี 1945 สงครามเกาหลีในปี 1950 การปฏิวัติในปี 1960 การเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในกวางจูในปี 1980 ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงในหมู่ฝ่ายต่างๆ ฝ่ายซ้ายและขวา หรืออนุรักษ์นิยมและก้าวหน้า รวมถึงฝ่ายที่สนับสนุนญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา นำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในสังคม
นักวิจารณ์ชื่อดัง คิม กาบ ซู ได้ยอมรับ "ข้อผิดพลาดในความคิดเห็น" ของตนเองและเสนอความคิดเห็นที่ได้รับการแก้ไขอย่างระมัดระวัง ท่าทีเช่นนี้ควรได้รับความสนใจจากกลุ่มการเมือง ไม่ว่าจะเป็นอนุรักษ์นิยม ก้าวหน้า หรือพวกที่สนับสนุนญี่ปุ่น
2024. 6. 22 참길