มะเดื่อแห้งวันที่ 10 (23 พฤศจิกายน)
เช้านี้ภรรยาบอกว่าลูกท้อที่ตากไว้ในระเบียงแห้งพอดีแล้วสามารถรับประทานได้ เธอชิมแล้วบอกว่าอร่อยมาก เลยพูดว่าเพราะอย่างนั้นแหละลูกท้อแห้งถึงได้แพง
ทันใดนั้นเอง เสียงถอนหายใจ "ลูกท้อตายแล้ว~" ก็หลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน ฉันอยากจะกลายเป็นลูกท้อนั้นทันที
ฉันเป็นลูกท้อต้นหนึ่งที่เติบโตมาหลายปีในภูเขาห่างไกลที่ฉันเองก็ไม่รู้จักชื่อ ฉันและพี่น้องลูกท้อจำนวนมากห้อยอยู่บนต้นไม้ ปีนี้มีลูกท้อมากมาย เจ้าของจึงตัดสินใจขายส่วนหนึ่ง ดังนั้นฉันจึงกลายมาเป็นลูกท้อแห้งที่ระเบียงอพาร์ตเมนต์
เจ้าของบ้านได้นำฉันและพี่น้องลูกท้อไปแขวนไว้บนโครงพลาสติกเพื่อตากแดด เหมือนกับปลาแห้งที่ถูกมัดติดกัน ฉันแขวนอยู่ที่นั่นรับแสงแดดและลม ร่างกายอวบอิ่มของฉันค่อยๆแห้งลงและเริ่มมีรอยย่นลึกๆปรากฏบนผิว
วันนี้เป็นวันที่ 10 แล้วที่ฉันถูกแยกออกจากบ้านของฉันและถูกแขวนไว้ที่บ้านเจ้าของอย่างไม่เต็มใจ เจ้าของบ้านตัดสินใจที่จะลองชิมฉัน ในที่สุดก็เลือกฉันขึ้นมาเพราะฉันดูน่ารับประทานที่สุดในบรรดาลูกท้อที่แขวนด้วยพลาสติก
ในขณะนั้นเองสามีของเจ้าของบ้านได้ถอนหายใจว่า "ลูกท้อตายแล้ว" และแล้วเรื่องราวใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
พี่น้องลูกท้อมากมายที่เติบโตมาบนผืนแผ่นดินนี้ได้ถูกขายไปตามชะตากรรมกลายเป็นอาหารของมนุษย์หรือไม่ก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินจนไม่เหลือเค้าเดิม
ช่างเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันเหลือเกิน
ฉันตายไปแล้วแต่กลับได้มีชีวิตอยู่ด้วยตัวอักษรและถ่ายทอดไปสู่ผู้คน
ฉันเหมือนได้เกิดใหม่ เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตในตัวฉันจะงอกงามขึ้นมาเป็นลูกท้อเช่นเดียวกับฉันอีกครั้งในดิน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกถึงชีวิตใหม่และคิดว่าชีวิตของฉันจะถูกถ่ายทอดต่อไปในอนาคตอันไกลโพ้น ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีเหลือเกิน!
เจ้าของบ้านที่กินฉันเข้าไปจะคิดแบบเดียวกับฉันได้ไหม? ถ้าจะทำเช่นนั้น เธอต้องตายเหมือนฉัน แต่เธอจะมีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นไหม?
ฉันอยากจะถามคำถามเดียวกันนี้กับมนุษย์ทุกคนที่เคยกินพี่น้องลูกท้อของฉัน พวกเขาจะมีคำตอบอย่างไรบ้าง?
2024. 11. 23 ชามกิล
ความคิดเห็น0